เรียงความเรื่องการใช้ระบบปฏิบัติการ (Operating System) ในสถานศึกษา
การทํางานของคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทํางานด้วยตัวเองได้ แต่จะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทํางานซึ่งเรียกว่า “ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไปซอฟต์แวร์จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมสําเร็จรูป และโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ซึ่งระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้าที่ ในการจัดการและควบคุมการทํางานและอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การจัดการเกี่ยวกับการแสดงผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์ การจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้ม การติดตั้งโปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังช่วยสร้างส่วนติดต่อ ระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ (User interface) ให้ง่ายต่อการใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยู่หลาย ระบบ ซึ่งมีการพัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท
การใช้ระบบปฏิบัติการในสถานศึกษาก็เช่นกัน สถานศึกษานั้นจำเป็นที่จะต้องใช้คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการในการที่จะจัดเก็บข้อมูล การให้บริการของเครื่องแม่ข่ายและเครือข่ายในอาคาร การให้บริการ Internet และการใช้เป็นสื่อในการเรียนการสอนในห้องเรียนทำให้การศึกษานั้นก้าวหน้าและทันสมัยมากขึ้น ระบบปฏิบัติการที่ใช้ในสถานศึกษานั้นมีหลายระบบ เช่น ระบบปฏิบัติการ Windows XP จากบริษัท Microsoft ซึ่งก็มีหลายรุ่นอีก ที่นิยมมากคือ Microsoft Windows XP Professional Version 2002 Service Pack 2 และ Pack 3 ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Vista นอกจากของ windows แล้ว ยั้งมีระบบปฏิบัติการ Linux ระบบปฏิบัติการ Mac OS –X แต่ที่นิยมใช้กันในเครื่องแม่ข่ายหรือ เครื่อง Server นั้นจะเป็นระบบปฏิบัติการ Linux, Windows Server 2003, Windows Server 2008
และจากประสบการณ์ที่ผมเคยใช้ระบบปฏิบัติการมานั้นส่วนมากแล้วจะใช้ระบบปฏิบัติการของ Microsoft Windows XP Service Pack 2 และ Pack 3 และ ระบบปฏิบัติการ Microsoft Window Vista Service Pack 1 แต่ ระบบ Linux นั้นยังไม่เคยใช้ แต่ในส่วนของระบบ windows นั้นผมมีความคิดเห็นว่าระบบ Windows XP Service Pack 2 นั้น จะดีและสมบูรณ์กว่า ระบบ ของ Vista มากที่เดียวทั้งในด้านการรองรับโปรแกรม เก่าๆหรือโปรแกรมออกใหม่และการเล่นเกม ระบบ XP จะได้เปรียบมาก ทั้งด้านการทำงานปกติ และงานด้านกราฟิกขั้นสูง ระบบความปลอดภัยก็ดีกว่า และที่สำคัญไม่กินเนื้อที่ของ Hard disk และ RAM อีกด้วย และระบบก็เรียบง่ายไม่ซับซ้อนเหมือน Vista เลย
การทํางานของคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทํางานด้วยตัวเองได้ แต่จะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทํางานซึ่งเรียกว่า “ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไปซอฟต์แวร์จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมสําเร็จรูป และโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ซึ่งระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้าที่ ในการจัดการและควบคุมการทํางานและอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การจัดการเกี่ยวกับการแสดงผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์ การจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้ม การติดตั้งโปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังช่วยสร้างส่วนติดต่อ ระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ (User interface) ให้ง่ายต่อการใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยู่หลาย ระบบ ซึ่งมีการพัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท
การใช้ระบบปฏิบัติการในสถานศึกษาก็เช่นกัน สถานศึกษานั้นจำเป็นที่จะต้องใช้คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการในการที่จะจัดเก็บข้อมูล การให้บริการของเครื่องแม่ข่ายและเครือข่ายในอาคาร การให้บริการ Internet และการใช้เป็นสื่อในการเรียนการสอนในห้องเรียนทำให้การศึกษานั้นก้าวหน้าและทันสมัยมากขึ้น ระบบปฏิบัติการที่ใช้ในสถานศึกษานั้นมีหลายระบบ เช่น ระบบปฏิบัติการ Windows XP จากบริษัท Microsoft ซึ่งก็มีหลายรุ่นอีก ที่นิยมมากคือ Microsoft Windows XP Professional Version 2002 Service Pack 2 และ Pack 3 ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Vista นอกจากของ windows แล้ว ยั้งมีระบบปฏิบัติการ Linux ระบบปฏิบัติการ Mac OS –X แต่ที่นิยมใช้กันในเครื่องแม่ข่ายหรือ เครื่อง Server นั้นจะเป็นระบบปฏิบัติการ Linux, Windows Server 2003, Windows Server 2008
และจากประสบการณ์ที่ผมเคยใช้ระบบปฏิบัติการมานั้นส่วนมากแล้วจะใช้ระบบปฏิบัติการของ Microsoft Windows XP Service Pack 2 และ Pack 3 และ ระบบปฏิบัติการ Microsoft Window Vista Service Pack 1 แต่ ระบบ Linux นั้นยังไม่เคยใช้ แต่ในส่วนของระบบ windows นั้นผมมีความคิดเห็นว่าระบบ Windows XP Service Pack 2 นั้น จะดีและสมบูรณ์กว่า ระบบ ของ Vista มากที่เดียวทั้งในด้านการรองรับโปรแกรม เก่าๆหรือโปรแกรมออกใหม่และการเล่นเกม ระบบ XP จะได้เปรียบมาก ทั้งด้านการทำงานปกติ และงานด้านกราฟิกขั้นสูง ระบบความปลอดภัยก็ดีกว่า และที่สำคัญไม่กินเนื้อที่ของ Hard disk และ RAM อีกด้วย และระบบก็เรียบง่ายไม่ซับซ้อนเหมือน Vista เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น